มัทฉะลาเต้ทำไมต้องเป็น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA
มัทฉะลาเต้ทำไมต้องเป็น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA
มัทฉะลาเต้ ชาเขียวนมเท่ๆสไตล์ญี่ปุ่น
มัทฉะหรือผงชาเขียวคุณภาพสูงเป็นวัตถุดิบยอดฮิตจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ไม่มีใครปฏิเสธรสชาติของมันได้เมื่อยามได้ลิ้มลอง เช่นเดียวกับความขมของกาแฟและโกโก้ รสขมฝาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาเขียวชั้นเลิศนั้นเข้ากันได้ดีกับรสของนม (และน้ำตาล) ทำให้มัทฉะกลายเป็นหนึ่งในเมนูเครื่องดื่มพื้นฐานที่ทุกคาเฟ่จะต้องเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า
มัทฉะ ชาเขียว ผงชาเขียว ต่างแค่ชื่อ? หรือคนละอย่างกัน
จริงๆ แล้ว มัทฉะจัดเป็นชาเขียวชนิดหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้มัทฉะแตกต่างจากชาเขียว (ใบชา) ทั่วไปก็คือ ขั้นตอนการผลิตมัทฉะที่จะนำใบชาเขียวมาโม่ด้วยโม่หินจนละเอียดเป็นผงแป้ง (Powder) จึงพูดได้ว่า “มัทฉะก็คือชาเขียวบดละเอียด” นั่นเอง หรือบางทีก็อาจเรียกว่า “ผงชาเขียว” แต่มีข้อควรระวังสักนิด เพราะบางครั้งผู้ผลิตก็ใช้คำว่าผงชาเขียวกับใบชาเขียวบดหยาบ (Tea Dust) ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลิตภัณฑ์คนละชนิดกันและมีวิธีการชงดื่มต่างกันอย่างสิ้นเชิง
กล่าวคือใบชาเขียวบดหยาบนั้นชงโดยใช้วิธีแช่น้ำแล้วแยกกากชาออก แต่การชงมัทฉะจะใช้แปรงตีชาตีให้ผงชาละลายเข้ากับน้ำแล้วดื่มผงชาเข้าไปด้วยเลย
ความพิถีพิถันตั้งแต่การปลูก
เนื่องจากมัทฉะคือผงชาบดละเอียด ทุกอณูของผงชาจึงปลดปล่อยสารต่างๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่ เวลาชงดื่มจึงให้รสชาติที่เข้มข้นมาก หากใบชาที่ใช้บดมีรสขม มัทฉะก็จะยิ่งขมมาก ดังนั้นชาวญี่ปุ่นจึงพัฒนากระบวนการปลูกชาให้สามารถลดความขมในใบชาลงได้รวมทั้งเพิ่มรสอูมามิขึ้นมาแทน กระบวนการนี้คือการคลุมแปลงชาด้วยร่มเงาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว วิธีการนี้ถูกนำมาใช้กับชาชั้นดีอย่าง เทนฉะ (ชาที่ใช้บดเป็นมัทฉะ) เกียวกุโระ และคาบุเซฉะ นี่จึงเป็นสาเหตุให้มัทฉะชั้นดีจากญี่ปุ่นมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยรสอูมามิ ส่วนความขมนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของใบชา ใบชายิ่งคุณภาพสูงเท่าใด ความขมยิ่งน้อยลงเท่านั้น
มัทฉะขมดีหรือไม่ขมดี?
โดยทั่วไปชาเขียวมีรสขมจากสารคาเทชิน ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น ชาเขียวยิ่งขมก็ยิ่งอุดมด้วยคุณประโยชน์ แต่ทว่ารสขมเกินไปก็เป็นสิ่งที่คนหลีกเลี่ยง ในทางตรงกันข้าม หากมัทฉะคุณภาพสูงมากๆ ก็จะไม่เหมาะกับการชงผสมกับนม เพราะรสของชาจะหายไปกับนมจนหมด มัทฉะที่มีความขมฝาดบ้างเล็กน้อยจึงเหมาะกับการชงเป็น “มัทฉะลาเต้” มากกว่ามัทฉะคุณภาพสูงลิ่วอย่างที่ใช้ในพิธีชงชาของญี่ปุ่น
แหล่งปลูกมัทฉะที่ดีที่สุด
นอกจากคุณภาพของมัทฉะจะขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันในการปลูกแล้ว ในบรรดามัทฉะเกรดพรีเมี่ยมด้วยกันเอง ก็ยังแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ย่อยและแหล่งปลูกซึ่งเป็นตัวกำหนดปัจจัยต่างๆ เช่น ความสูงจากระดับน้ำทะเล ความชื้น กระแสลม ปริมาณแสงแดด ความแตกต่างของอุณหภูมิกลางวัน-กลางคืน ส่งผลให้มัทฉะจากแต่ละแหล่งปลูกมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป โดยในปัจจุบัน แหล่งปลูก (Terroir) ชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นได้แก่ เกียวโต-อูจิ (Kyoto-Uji) ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ชิสุโอกะ (Shizuoka) คาโกชิมะ (Kagoshima) และ ไอจิ-นิชิโอะ (Aiji-Nishio) โดยชิสึโอกะเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย มีอัตราการผลิตนับเป็น 40% ของทั้งประเทศ
ทำไมต้องเป็น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA
แม้ว่ามัทฉะจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างมานาน แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะหามัทฉะที่เหมาะสมสักตัวหนึ่งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหลักของร้าน ด้วยเล็งเห็นถึงความยุ่งยากที่ผู้ประกอบการต้องประสบพบเจอ SYNOVA จึงเลือกมัทฉะจากเมืองหลวงแห่งชาเขียวอย่างเมืองชิสุโอกะ ซึ่งมีกลิ่นหอมเป็นอัตลักษณ์จากดินที่อุดมไปด้วยแร่ภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงอย่างฟูจิยามะมาปรุงเป็น Premium Matcha Latte Premix เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเตรียมเมนูมัทฉะลาเต้ที่แสนอร่อย เหมาะสำหรับผู้ประกอบรายใหม่รวมทั้งผู้ประกอบที่กำลังเสาะหาวัตถุดิบที่ลงตัวทั้งรสชาติและความคุ้มค่าของราคา
ความได้เปรียบของ Premium Matcha Latte Premix
- สะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อการบริหารจัดการ ทั้งสต็อคและการเตรียมเมนู
- ควบคุมคุณภาพได้ รสชาติอร่อยเหมือนเดิมทุกครั้งที่ชง
- ช่วยลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่ายของร้านได้หลายทาง
คุณสมบัติสินค้า
ผลิตภายใต้กระบวนการที่ได้มาตรฐาน GMP HACCP และ HALAL
ควรเก็บในที่แห้งและเย็น (อุณหภูมิไม่เกิน 28 องศาเซลเซียส)
สินค้าอยู่ในคุณภาพดีที่สุด 1 ปีจากวันที่ผลิต และ 3 เดือนนับจากวันที่เปิดใช้