ชีสเค้ก: ขนมหวานสุดคลาสสิกที่ครองใจคนทั่วโลก

ชีสเค้ก (Cheesecake) เป็นหนึ่งในขนมหวานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยรสสัมผัสที่นุ่มละมุน หอมมันจากครีมชีส และความหลากหลายของสูตรที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวัฒนธรรมอาหารในแต่ละประเทศ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจต้นกำเนิดของชีสเค้ก ประเภทต่าง ๆ และวิวัฒนาการของขนมสุดคลาสสิกนี้

ต้นกำเนิดของชีสเค้ก

ชีสเค้กมีประวัติที่ยาวนานมาก มีหลักฐานว่าขนมลักษณะคล้ายชีสเค้กเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ นักประวัติศาสตร์อาหารเชื่อว่าชาวกรีกเป็นผู้คิดค้นชีสเค้ก โดยมีการใช้ชีสสดผสมกับน้ำผึ้งและแป้งเพื่อนำไปอบ เชื่อกันว่าในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรก (ราว 776 ปีก่อนคริสตกาล) นักกีฬายังกินชีสเค้กเป็นแหล่งพลังงานอีกด้วย

ต่อมา เมื่ออาณาจักรโรมันขยายอิทธิพล สูตรชีสเค้กจึงแพร่กระจายไปทั่วยุโรป และมีการพัฒนาสูตรให้เข้ากับวัตถุดิบที่มีในแต่ละท้องถิ่น จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ครีมชีสถูกคิดค้นขึ้นในสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดชีสเค้กในรูปแบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ประเภทของชีสเค้ก

ชีสเค้กสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามกรรมวิธีการทำและวัตถุดิบที่ใช้ ซึ่งแต่ละแบบมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป

1. ชีสเค้กอบ

ชีสเค้กประเภทนี้ใช้ครีมชีส ไข่ น้ำตาล และครีมสดเป็นส่วนประกอบหลัก และต้องผ่านการอบเพื่อให้เนื้อเซ็ตตัว มีเนื้อสัมผัสที่แน่นและเข้มข้นขึ้น บางสูตรอาจมีการอบแบบรองน้ำ (water bath) เพื่อให้เนื้อเนียนขึ้น ตัวอย่างของชีสเค้กประเภทนี้ ได้แก่:

• New York Cheesecake – สูตรคลาสสิกจากอเมริกา มีเนื้อแน่นและครีมมี่ มักเสิร์ฟแบบเรียบง่ายโดยไม่ต้องใส่ท็อปปิ้ง
• Basque Burnt Cheesecake – ชีสเค้กจากแคว้นบาสก์ ประเทศสเปน มีเอกลักษณ์คือผิวหน้าที่ถูกเผาจนเกรียมเล็กน้อยให้รสขมตัดกับเนื้อครีมข้างใน
• Japanese Cotton/Soufflé-style cheesecake – ชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเนื้อเบาและนุ่มฟูคล้ายเนื้อสปันจ์
• Mascarpone Cheesecake – ชีสเค้กที่ใช้มาสคาร์โปเน่ชีสแทนครีมชีส ทำให้มีรสชาติที่ครีมมี่และละมุนมากขึ้น มักนิยมในสูตรแบบอิตาลี
• Ricotta Cheesecake – ชีสเค้กที่ใช้ริคอตต้าชีส มีเนื้อเบาและไม่หวานมาก เป็นชีสเค้กที่นิยมอีกอย่างหนึ่งของอิตาลี

2. ชีสเค้กแบบไม่อบ

ชีสเค้กแบบไม่ต้องอบจะใช้ครีมชีส วิปครีม และเจลาตินเป็นตัวช่วยให้เซ็ตตัว แทนที่จะใช้ความร้อน เนื้อสัมผัสจะนุ่มและเบากว่าชีสเค้กอบ ตัวอย่างที่ได้รับความนิยม ได้แก่:

• Rare Cheesecake – ชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความสดชื่น มักมีรสเปรี้ยวจากเลมอนหรือผลไม้
• Mousse Cheesecake – ชีสเค้กที่มีเนื้อเบาและฟูคล้ายมูส ใช้เจลาตินและวิปครีมในการทำให้เซ็ตตัวโดยไม่ต้องอบ ให้สัมผัสที่ละมุนและเบากว่าชีสเค้กทั่วไป

ชีสเค้กกับความนิยมในปัจจุบัน

ปัจจุบันชีสเค้กยังคงเป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการดัดแปลงสูตรใหม่ ๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน เช่น:

• ชีสเค้กเพื่อสุขภาพ – ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง น้ำตาลมะพร้าว หรือใช้นมอัลมอนด์แทนครีมสด
• ชีสเค้กวีแกน – ใช้วัตถุดิบจากพืชแทนผลิตภัณฑ์นม เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์หรือเต้าหู้
• ชีสเค้กคีโต – ใช้แป้งอัลมอนด์แทนฐานบิสกิต และใช้น้ำตาลจากอิริทริทอลแทนน้ำตาลปกติ

สรุป

ชีสเค้กเป็นขนมหวานที่มีประวัติยาวนานและได้รับความนิยมไปทั่วโลก จากสูตรโบราณของชาวกรีกโบราณ สู่ชีสเค้กนิวยอร์กอันโด่งดัง และชีสเค้กแบบไม่อบที่สดชื่นเบาสบาย ปัจจุบันชีสเค้กยังคงพัฒนาไปตามยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าคุณจะชอบแบบอบหรือแบบไม่อบ ชีสเค้กยังคงเป็นขนมที่ครองใจคนรักของหวานได้เสมอ

ชีสเค้กหลากหลายรูปแบบของซินโนวาพร้อมให้คุณนำไปเสิร์ฟได้ง่ายๆ ที่ร้านคุณเอง