เก็บมัทฉะอย่างไรให้อยู่กับเราไปนานๆ

เก็บมัทฉะอย่างไรให้อยู่กับเราไปนานๆ

ช่วงนี้กระแสความนิยมมัทฉะทั่วโลกพุ่งสูงแตะจุดวิกฤต ทำให้ผงมัทฉะขาดตลาดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หลายร้านไม่มีมัทฉะทำเมนูเสิร์ฟลูกค้า แต่สำหรับคนที่มีมัทฉะตุนในสต็อค ลองเช็คดูว่าเราเก็บรักษาผงชาเขียวของเราเหมาะสมดีหรือยัง

มัทฉะเป็นชาเขียวผง พื้นผิวสัมผัสของผงมัทฉะจึงมีมากกว่าชาเขียวใบที่น้ำหนักเท่ากัน เมื่อชงกับน้ำ มัทฉะจึงปล่อยสารออกมาเร็วกว่าชาเขียว และเข้มข้นกว่ามากๆ ด้วย แต่พื้นที่ผิวที่มากกว่าก็ทำให้มัทฉะเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าชาเขียวใบด้วยเช่นกัน

อายุการเก็บรักษามัทฉะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สาเหตุที่ทำให้มัทฉะเสื่อมคุณภาพมีดังนี้

1. แสง แสงแดดทำปฏิกิริยากับคลอโรฟิลล์ในผงชา แสงจากหลอดไฟก็เช่นกัน หากมัทฉะอยู่ในภาชนะโปร่งใสหรือโปร่งแสง สีเขียวจะหายไปเร็วมาก กลายเป็นสีเหลือง กลิ่นหอมสดชื่นก็จะหายไป
2. ออกซิเจน ออกซิเจนในอากาศไวต่อการทำปฏิกิริยากับสารสำคัญในผงชา หากเก็บมัทฉะไว้ในภาชนะที่มีอากาศหรือไม่ปิดฝาภาชนะนานๆ มัทฉะก็จะเกิดออกซิเดชันจนเสียคุณภาพและความหอม
3. ความร้อน หากเก็บมัทฉะไว้ในที่อุณหภูมิสูง จะเป็นการเร่งปฏิกิริยาเคมีในผงชาให้เกิดไวขึ้น มัทฉะก็จะเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นหากโดนความร้อน
4. ความชื้น ความชื้นหรือน้ำทำให้เกิดการปล่อยสารสำคัญในใบชาออกมา หากยังไม่ได้ชงชา ต้องเก็บมัทฉะให้ห่างจากความชื้นให้มากที่สุด
5. กลิ่นรบกวน อาหารหรือวัตถุที่มีกลิ่นแรง สามารถทำให้ผงมัทฉะดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นๆ ได้ หากเก็บไว้ใกล้กัน

การเก็บรักษามัทฉะที่เหมาะสม

1. เก็บในภาชนะทึบแสง
2. เก็บในภาชนะที่ไล่อากาศออกได้ / ใส่ซองดูดออกซิเจน
3. เก็บในภาชนะที่แห้ง / ใส่ซองดูดความชื้น
4. เก็บในสถานที่ที่อุณหภูมิต่ำ อุณหภูมิไม่แกว่ง
5. เก็บในภาชนะที่ปิดสนิทมิดชิด

- หากต้องเก็บมัทฉะไว้นานๆ โดยไม่เปิดถุง สามารถแช่ช่องฟรีสได้ แต่เมื่อนำออกมาต้องปล่อยให้ถุงฟอยล์คลายความเย็นก่อนเปิดปากถุง เพื่อป้องกันความชื้นเข้าไปจับกับผงชาที่เย็นจัดภายใน
- หากต้องเปิดฝาภาชนะเพื่อตักมัทฉะบ่อยๆ ควรบรรจุในภาชนะที่สามารถไล่อากาศออกได้ และไม่ต้องแช่ตู้เย็น

ทำตามนี้แล้วรับรองว่าคุณก็จะมีมัทฉะคุณภาพดีเก็บไว้ชงได้นานอย่างชนิดที่เรียกว่าข้ามปีกันไปเลย

กิจกรรมเพิ่มเติม